สรุปสิ่งที่ได้จากงาน People Performance Conference 2024

รูปจาก Facebook Page : PEOPLE PERFORMANCE CONFERENCE 

Performance ขององค์กรเป็นผลจาก People ผมไม่เคยเห็นที่ไหนที่ People แย่แล้ว Performance ดี

ขอเปิดบทความด้วยประโยคของคุณต้อง CEO Robinhood หนึ่งใน Speaker ของงานนี้

เราได้ไปร่วมงาน People Performance Conference 2024 ที่จัดโดย Creative Talk ที่สามย่านมิตรทาวน์ ตัวงานแบ่งออกเป็นหลาย session ถ้าฟังทั้งหมด ทุกอันจะเล่าและเน้นย้ำไปในทางเดียวกัน แต่เล่าจากคนละ case คนละมุม เลยขอสรุปแบบไม่แยก session แล้วกันค่ะ

  1. ทำไมต้องสนใจเรื่องคน
  2. Culture แบบไหนที่คนอยากทำงานด้วย
  3. Psychological safety
  4. Core values
  5. Leadership ทักษะของผู้นำ 2024

ทำไมต้องสนใจเรื่องคน

ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วง Talent War ที่ทุกองค์กรต้องการคนเก่ง แต่ demand ของคนเก่งสูงกว่า supply มาก แล้วองค์กรจะทำอย่างไรให้คนเก่งสนใจมาทำงานด้วย และยังคงสามารถรักษาคนเก่งไว้กับองค์กรได้ด้วย เพราะคนเก่งคือคนที่เลือกได้

Ref – https://www.forbes.com/sites/deborahlovich/2023/10/04/is-the-war-for-talent-over-if-so-who-won

อีกทั้งปัจจัยการเลือกงานของคนในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนที่อาจจะสนใจแค่ Material offering (เงิน สวัสดิการ) และชื่อเสียงขององค์กร แต่เดี๋ยวนี้โดยเฉพาะ Gen Z มองหางานที่ตอบโจทย์ชีวิตของตัวเอง (Purpose) และเลือกองค์กรที่อยู่แล้วมีความสุข

ดังนั้นองค์กรจึงต้องมี Employee Value Proposition (EVP) ที่น่าสนใจและดึงดูดคนทำงานยุคนี้ โดยคุณอ้อ Chief Growth Officer จาก Jitta และคุณอ้อน Director of HR จาก TCP Group ได้นำ EVP Framework จากบทความของ HBR มาพูดคุยกัน และแนะนำให้องค์กรโฟกัสที่กล่องขวาล่าง ที่เป็นเรื่องของ Meaning และ Purpose ของทั้งบริษัทและตัวพนักงาน

Ref – https://hbr.org/2023/01/rethink-your-employee-value-proposition

ซึ่ง EVP จะองค์กรจะออกมาในรูปแบบของ Culture & Core Values ที่องค์กรประกาศออกไปนั่นแหละ

Culture แบบไหนที่คนอยากทำงานด้วย

Flexible : คนในยุคนี้ชอบ Work from Anywhere (WFA) ซึ่งเป็นผลหลังจากโควิด บวกกับคน Gen Z ต้องการอิสระในชีวิตมากขึ้น การบังคับเข้าออฟฟิศทุกวันก็อาจจะไม่ตอบโจทย์คนในยุคนี้

Diversity : องค์กรที่ส่งเสริมการยอมรับความแตกต่าง ยิ่งด้วยช่วงนี้เป็นช่วงที่ Gen Z เป็น First Jobber ทำให้มีปัญหาเรื่อง Generation Gap ชัดเจน คนที่มีอายุต่างกันอาจมีความเห็นต่างกัน องค์กรต้องสร้างพื้นที่ที่ไม่แบ่งแยกความแตกต่างนี้

Empathy + Listening : องค์กรควรเข้าใจคนทำงานมากขึ้น รับฟังและคำนึงความเห็นของทุกคน และพูดคุยสื่อสารกับพนักงานด้วยความเข้าใจ

Inclusion (sense of belonging) : ทำให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร บอกว่าเขาเป็นน็อตตัวไหนที่ขับเคลื่อนองค์กร พูดขอบคุณและให้ recognition บ่อยๆเมื่อเขาทำงานดีหรือทำงานสำเร็จ

Space : องค์กรควรมีพื้นที่ให้พนักงานปล่อยของ เพราะคนรุ่นใหม่ชอบคิดชอบสร้าง อยากมีพื้นที่ให้ลองผิดลองถูก และพื้นที่นี้ต้องมี Psychological safety

Psychological safety

Psychological safety หรือความปลอดภัยทางใจ เป็นความเชื่อ ความเชื่อว่าฉันจะไม่ซวย ไม่แย่ ไม่โดนเบลม ไม่ว่าเราจะทำผิดพลาดอย่างไร

องค์กรที่ไม่มี Psychological safety คือองค์กรที่ทุกคนไม่พูด ไม่กล้าพูดถึง conflict ไม่พูดเพราะกลัวโดนด่า ไม่ยอมรับผิดเมื่อเวลาทำผิด เสนออะไรไปก็โดนปฏิเสธ บรรยากาศแบบนี้ทำให้พนักงานมีสุขภาพจิตแย่ เกิดความเครียดสะสม แล้วทำให้พนักงานตัดสินใจออกจากองค์กรแบบนี้

Photo by Monstera Production on Pexels.com

มีการศึกษาว่า ทีมที่มีผลลัพธ์การทำงานที่ดีกว่ากลับมีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการทำงานมากกว่า เพราะข้อผิดพลาดไม่ได้ทำให้ได้ best outcome แต่”การรายงาน”ข้อผิดพลาดเยอะๆ แล้วพนักงานเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาทำให้เกิด best outcome

สิ่งที่จะได้จากการที่องค์กรมี Phychological safety คือ

  1. Innovation : พนักงานจะกล้าเล่น กล้าลอง กล้านำเสนอไอเดียใหม่ๆมากขึ้น
  2. Effectiveness : พอพนักงานได้ทดลองทำสิ่งใหม่ๆที่แตกต่างออกไปจากเดิม ประสิทธิภาพการทำงานก็จะดีขึ้น
  3. Agility : องค์จะสามารถปรับตัวและเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น เพราะทุกคนไม่กลัวที่จะพูดถึงปัญหาและพร้อมที่จะแก้ไขอย่างรวด

การสร้าง Psychological safety ได้ เราต้องเปลี่ยนความเชื่อแบบเดิมๆ เปลี่ยนวิธีการตอบสนองต่อปัญหาและข้อผิดพลาดแบบเดิมๆ และการสร้างไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของ“ทุกคน”ในองค์กร

แต่ระวังว่าในพื้นที่ปลอดภัย ไม่ใช่ว่าใครจะพูดหรือทำอะไรตามใจก็ได้ แต่คือการที่ทุกคนกล้าทำและแสดงออกเต็มที่โดยยังคงใส่ใจความปลอดภัยทางใจของคนอื่นด้วย

Core values

Core values จะสะท้อนถึง culture และเป็น expected behavior ที่องค์กรอยากให้พนักงานทุกคนทำตาม และเป็น way of work ขององค์กร

การสร้าง Core values องค์กรจะต้องคิดว่าสร้างอย่างไรให้คนข้างในจับต้องได้ และหมั่นตรวจเช็คว่าพนักงานรู้สึกแบบนั้นหรือไม่

ตัวอย่างที่จะทำให้พนักงานรู้สึกและซึมเข้าไปจนทุกคนทำตามได้ เช่น

  • Communication everywhere เช่น ใส่เข้าไปใน slide แรกของทุกการประชุม ไม่ว่าจะเป็น townhall หรือ orientation หรือจะติดในห้องน้ำก็ได้
  • กิจกรรม Employee engagement ที่องค์กรจัดต้องสะท้อน Core values ออกมา

ถ้าพนักงานรู้สึกถึง Core values ขององค์กรแล้ว พนักงานจะบอกต่อไปให้คนอื่นๆอยากเข้ามาทำงานกับองค์กรด้วย (referral)

Warning! คน toxic คนเดียวสามารถทำให้ culture ขององค์กรเสียได้ องค์กรจึงต้องระวังมากๆ

Leadership ทักษะของผู้นำ 2024

Build trust : อย่างแรกเลยคือผู้นำต้องสร้างความเชื่อมั่นกับพนักงานหรือคนในทีม

Listen & Take action : ฟังเยอะๆ ฟังให้กว้าง ฟังความเห็นที่แตกต่าง ถ้าฟังแล้วเจอปัญหาให้รีบแก้ทันที

Lead by examples : อย่าเพียงแค่สั่งหรือพูด แต่ทำให้ดูเป็นตัวอย่างจะทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้น

Layout the plan : กำหนดเป้าหมาย สร้าง direction/OKR ให้ชัดเจน อะไรสำคัญอย่าพูดอย่างเดียว ใส่ในที่ๆทุกคนเห็น ทุกคน track ได้

Communicate : สื่อสารทุกอย่างให้ชัดเจน ให้ทุกคนตีความได้เหมือนกัน ทุกช่องทาง ทุก level

Life long learning : เมื่อโลกเปลี่ยนเร็ว ผู้นำต้องตามให้ทัน ทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว เรียนรู้สิ่งใหม่ๆตลอดเวลา

Resilience : คนเราสามารถทำผิดพลาดได้ล้มได้ แต่ล้มแล้วต้องลุกให้เร็ว หาวิธีแก้ไขความผิดพลาดอย่างรวดเร็ว

Inspire : การสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานมีความสำคัญมาก ถ้าสามารถ inspire คนได้ จะเหมือนได้คนทำงานเพิ่ม 2-3 เท่า


และแน่นอนว่าต้องมีพูดถึงเรื่อง skill ที่จะโดน AI ทดแทน แต่ปัจจุบันยังมี skill ที่ AI ยังไม่สามารถทดแทนได้คือ People skill

AI สร้าง Psychological safety ไม่ได้ สร้าง Culture ไม่ได้ กำหนด Core values ไม่ได้ หรือจะให้ AI เป็นหัวหน้าก็ยังไม่ได้

เราเลยต้องสนใจเรื่อง People กันไงล่ะ 🙂


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *